วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

How to be a Makeup-Artist.

HOW TO ?
     ขั้นตอนสำคัญในการก้าวไปเป็น Makeup-artist ก้าวไปเป็นมืออาชีพ ความใฝ่ฝันของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันบางคนแค่ต้องการประกอบอาชีพ แต่บางคนก็ต้องการที่จะมีชื่อเสียงทำงานในแวดวงแฟชั่น หนังสือ หรือ โฆษณาต่างๆ ขั้นตอนนี้เป็นสิ่งที่ผู้เขียนรวบรวมมาจากประสบการณ์ส่วนตัวเท่านั้น วิธีการอาจแตกต่างกันออกไป

1.สร้างแรงบันดารใจ
     โดยดูจาก Makeup-artist ทั้ง ไทยและต่างชาติ 
     -ไทย   ก็เช่น พี่เป็ด พี่ม้า พี่มล พี่กุ่ย พี่ขวด และอีกมากมายซึ่งหลายๆคนก็พอรู้จักกันอยู่บ้าง
     -ต่างชาติ อันนี้คงต้องหาข้อมูลตาม internet เอาไม่ยากดูตาม Brand เครื่องสำอางต่างๆเช่น MAC. NARS,SHISEIDO,LANCOME,DIOR,SHU UEMURA,BOBBI BROWN,LAURA และอื่นๆ

2.เรียน
    -เวลา การเรียนแต่งหน้าต้องใช้เวลาพอสมควรอย่างผู้เขียนเองใช้เวลาถึง 3 เดือน (เรียนทุกวัน) กว่าจะจบหลักสูตรช่างแต่งหน้า
    -สถานที่เรียน เลือกเอาตามความชอบ ความเหมาะสมที่แนะนำเช่น MTI เกศวดี เกศสยาม โรงเรียนเสริมสวย หรือตาม Brand เครื่องสำอางใหญ่ๆก็มีสอน
    -เงินทุน อย่างต่ำ ประมาณ 30,000 บาท ต้องเผื่อสำหรับค่าอุปกรณ์ต่างๆด้วยแนะนำให้ซื้อของที่ดีๆ ไปเลยเพื่อความคงทนและถนัดมือ


3.อุปกรณ์
    แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ใหญ่ๆ
  
  3.1 เครื่องมือที่ต้องมี
        แปรงแต่งหน้าคุณภาพดี
        กระเป๋าใส่เครื่องสำอาง
        กระจก
        ผ้ากันเปื้อน
        ที่คาดผม กิ๊บติดผม
        แหนบ
        ที่กันคิ้ว
        ที่ดัดขนตา
        ฟองน้ำแบบต่างๆ (ชนิดใช้แล้วทิ้ง)
        Puff แป้งฝุ่น (ชนิดใช้แล้วทิ้ง)
        น้ำยาล้างแปรง
        ขนตาปลอม (บน ล่าง)
        กาวติดขนตา
        ทิชชู สำลีแผ่น สำลีก้าน
     

     3.2 ผลิตภัณฑ์รองพื้นผิว
        รองพื้นกันน้ำ อย่างน้อย 3 เฉด (รับปริญญา)
        รองพื้นสูตรปกปิดปานกลาง อย่างน้อย 3 เฉด (เจ้าสาว)
        รองพื้นสูตรปกปิด กันน้ำ อย่างน้อย 3 เฉด (งานแฟชั่น งานประกวด หรือลูกค้าที่ผิวต้องปกปิด)
        คอนซิลเลอร์ 
        แป้งฝุ่น
        แป้งอัดแข็ง
        แป้งผสมรองพื้น
        High-Light ชนิดครีมหรืออัดแข็ง ให้ความสว่างเฉพาะจุด
        Shading   ชนิดครีมหรืออัดแข็ง ให้เงาเพื่อปรับรูปหน้าให้สวยขึ้น
        เบสปรับสภาพผิว
        กันแดด
        ครีมบำรุง
        น้ำแร่
        โลชั่นลบเครื่องสำอาง

      3.3 COLOUR
        Cheek
        LIP
        EYE (เปลือกตา , คิ้ว)

4.ใบประกาศ
      เมื่อเรียนจบแล้วควรได้รับใบประกาศสำหรับไว้อ้างอิงเพื่อสมัครงาน สำหรับท่านที่มีประสพการณ์การทำงานอยู่แล้วอาจทำเป็น Portpolio (รวบรวมรูปของผลงาน) เก็บไว้เพื่อเป็นชิ้นงานที่สำคัญสำหรับใบเบิกทางการทำงานเป็น Makeup Artist


5.หางาน
      ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการทำทางเราไปในสายงานที่เราต้องการควรเลือกให้เหมาะสมกั่บบุคคลิกตัวเองนะ การเป็นช่างแต่งหน้าก็มีหลากหลายสายงานอยุ่เหมือนกัน
      5.1 Makeup Artist Freelance เหมาะกันคนที่มีประสบการณ์มาพอสมควรและมีลูกค้าที่รู้จักชื่อเสียงบ้าง
      5.2 Brand Cosmetics หลักๆคือต้องขายสินค้าเป็นโดยใช้เทคนิคการแต่งหน้าเป็นส่วนแนะนำให้กับลูกค้า หลายๆคนเข้ามาทำงานด้วยความเข้าใจผิดๆคือมาแต่งหน้าอย่างเดียว ซึ่งในปัจจุบัน Brand ต่างๆมีการแข่งขันกันมากขึ้นผู้ที่จะทำงานด้านนี้ต้องมีความสามารถมากกว่าแค่การแต่งหน้า ต้องสามารถแนะนำเทคนิคต่างๆให้กับลูกค้าได้ มีความรู้ในตัวผลิตภัณฑ์ลึกซึ้งเป็นพิเศษ มีความเป็นผู้นำ Trand และสุดท้าย บุคลิกภาพ เป็นส่วนสำคัญที่สุดสำหรับงานสายนี้ Brand ที่เปิดรับก็มี
           -MAC
           -BOBBI BROWN
           -NARS
           -SHISEIDO
           -DIOR
           -LANCOME
           -Laura
           -CLINIQUE
           -Estee Lauder
           -SISLEY
           -LOLA
           -Redearth
           -ARTY
           -IPSA
           -COVERMARK
           -etc อีกมากมาย
      5.3 Magazine ต่างๆ ส่วนใหญ่จะมี Makeup ประจำอยู่แล้วแต่เราก็สามารถไปลองสมัครดู อาจไปขอฝึกงานก็ได้ ลองหาดูตาม หนังสือแฟชั่นต่างๆ ให้โทรไปสอบถามดูก่อนนะ
      5.4 Wedding Studio อันนี้ไม่ยากไปสมัครได้เลยไม่ต้องกลัวเกรงใด ทดสอบผ่านก็ได้งาน จบ อาจต้องไปหลายๆที่ก็ไม่แปลก ปกติแต่ละที่จะมีช่างประจำอยู่ บางที่ก็เป็นลักษณะ Freelance 
      5.5 ภาพยนตร์ อันนี้ไม่มีประสบการณ์ แต่เท่าที่รู้ก็ลำบากนะกว่าจะได้เงินก็ต้องรอนาน
      5.6 เปิดร้านเอง เท่าที่รู้จักพี่หลายๆคน สรุปว่าอันนี้เลิศสุด คือเปิดร้านแล้วจ้างช่างทำผมมาส่วนตัวเองก็รับแต่งหน้าไป งานสบาย ชิวๆแต่เหมาะกับชานเมืองหน่อย หรือต่างจังหวัด ในเมืองจะยากนิดนึง เพราะต้นทุนสูง แบบประมาณต้องแต่งสวยดุจ Makeup มือหนึ่ง เครื่องสำอางคุณภาพจากต่างประเทศ บริการแบบคลานเข่าประดุจดูแลเจ้าหญิง แต่ราคา  60 บาททั้งร้านอะไรเงี้ย (กรุงเทพสวรรค์ของ ชาวบัว)
      
      ยังมีอีกหลายวิธีในการหางานนะแต่อย่าขี้เกียจละกัน เด๋วผู้เขียนจะใช้ตัวเองนี่แหละไปหาประสพการณ์จริงจากที่ต่างๆ แล้วจะมา UPDATE กันนะว่าเป็นยังไงบ้าง

ออย
Makeup-Artist Freelance
aoi3mac@gmail.com

วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ช่างแต่งหน้าอาชีพ เค้าเป็นกันยังไง

ช่างแต่งหน้าอาชีพ
     หลายๆคนคงสงสัยว่า การก้าวมาสู่อาชีพนี้เค้าเป็นมาอย่างไร บางคนก็ไปร่ำเรียนตามสถาบันต่างๆพอจบออกมาก็เคว้งคว้าง สุดท้ายก็ต้องไปเรียนทำผมแล้วมาเปิดร้านทำผมแทน เรื่องราวที่จะ UPDATE ต่อไปนี้จะช่วยให้เพื่อนๆที่สนใจงานด้านนี้ ได้มีหนทางที่กว้างขวางมากขึ้นในการก้าวสู่อาชีพ ช่างแต่งหน้าอิสระ